ธรรมชาติกับความแปรเปลี่ยนในคัมภีร์เต๋าเต๋อจิง
ก่อนกล่าวถึงธรรมชาติและความแปรเปลี่ยนในคัมภีร์เต๋าเต๋อจิง จะขอแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของจารีตการคิดระหว่างคัมภีร์เต๋าเต๋อจิงกับคัมภีร์อี้จิง ดังที่คัมภีร์อี้จิงได้สะท้อนให้เห็นแล้วถึงโลกทัศน์ของชาวจีนโบราณที่มนุษย์สามารถเข้าถึงธรรมชาติด้วยการสังเกตแบบแผนการแปรเปลี่ยนในธรรมชาติจนสามารถรวบรวมออกมาเป็นกฎเกณฑ์ต่างๆ คล้ายกับที่ปรัชญาตะวันตกเรียกมโนทัศน์นี้ว่า “Law of Nature” หรือกฎธรรมชาติ แต่แนวคิดในอภิปรัชญาจีนนั้น มโนทัศน์ “Lawgiver” หรือมโนทัศน์เกี่ยวกับผู้สร้างธรรมชาติไม่ได้มีความเป็นบุคคลเหมือน “พระเจ้า” (Personalized God) เช่น ในอภิปรัชญาของตะวันตกเลย
มโนทัศน์ทางอภิปรัชญาของจีนเกี่ยวกับบ่อเกิดแห่งจักรวาล คือ มโนทัศน์เกี่ยวกับสิ่งสัมบูรณ์สูงสุดที่ให้กำเนิดสรรพสิ่ง โดยเริ่มมีการกล่าวถึงว่า คือ “ไท่ชี่” (the Great Vital Energy) ในคัมภีร์อี้จิง เรื่อยมาจนถึงการกล่าวถึง “เต๋า” (the Way) ในคัมภีร์เต๋าเต๋อจิง แม้สิ่งทางอภิปรัชญา (Metaphysical Entity) ทั้งสองนี้จะมีนัยความหมายบางอย่างส่อให้เห็นว่าแตกต่าง เช่น อาจมองได้ว่า “ไท่ชี่” หมายถึง พลังชีวิตของจักรวาลที่พอจะมีความเป็นรูปธรรมอยู่บ้าง ส่วน “เต๋า” เป็นคำแทนสิ่งเร้นลับนามธรรมที่ไม่อาจสื่อถึงได้ด้วยภาษา มีความหมายในเชิงอธิบายวิถีการดำเนินไปของสรรพสิ่งมากกว่าที่จะระบุถึงสิ่งใดอย่างตายตัว แต่ยังมีลักษณะบางอย่างที่อาจพิจารณาได้ว่าทั้ง “ไท่ชี่” และ “เต๋า” นี้มีความสำคัญต่อกัน นั่นคือการมีลักษณะเป็นบ่อเกิดของ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น