คัมภีร์บทที่ 18 ความเมตตาสัจจะและกตัญญูเมตตา
เมื่อเต๋าที่ยิ่งใหญ่ถูกทอดทิ้ง ก็มีความเมตตา สัจจะขึ้นมา
เมื่อเกิดสติปัญญาขึ้นมา ก็มีของปลอมใหญ่เกิดขึ้น
เมื่อญาติพี่น้องไม่ปรองดองกัน ก็มีความกตัญญูเมตตาขึ้นมา
เมื่อประเทศมัวหมองวุ่นวาย ก็มีขุนนางที่ซื่อสัตย์ออกมา
ความหมาย
เมื่อปราศจากคุณธรรมใดๆ ในแผ่นดิน ผู้คนทุกชนชั้นไม่มีเต๋า มักมีความเมตตาและสัจจะเกิดขึ้น
เมื่อมีสติปัญญามากมาย สิ่งจอมปลอมและหลอกลวงก็จะปรากฏตามมา
เมื่อญาติพี่น้องไม่รักใคร่กันในครอบครัว ความกตัญญูจะถูกหยิบยกขึ้นมา
เมื่อประเทศวุ่นวาย มีคนร้าย มีทรราชย์ ขุนนางซื่อสัตย์ก็จะปรากฏตัวขึ้น
บทสรุป
เมื่อเต๋าที่ยิ่งใหญ่ถูกทอดทิ้ง คือ เมื่อคนเราไม่เคารพและปฏิบัติตามเต๋า นิยมหลงใหลวัตถุ ลำเอียงตนเอง แสวงหาผลประโยชน์ และปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง ก็จะเกิดการเอารัดเอาเปรียบ ทำลายซึ่งกันและกัน ทำให้สังคมและครอบครัวไม่สงบ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ปกครอง รักษาความสงบของสังคมประเทศชาติที่ตนเองปกครอง ก็จะสร้างความเมตตา สัจจะ สร้างสติปัญญา สร้างความกตัญญูเมตตาขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนปฏิบัติ แต่สิ่งเหล่านี้ก็แห้ปัญญาไม่ตก เพราะเมื่อคนเรามีระบบความคิดนิยมวัตถุ ก็จะลำเอียงตนเอง ใช้ผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก และความเมตตาสัจจะ กตัญญูเมตตามีประโยชน์มาก แต่ไม่เป็นธรรมชาติมิใช่เต๋า แก้ปัญหาได้ยาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น