คัมภีร์บทที่ 20 ปลดปล่อยตัวเอง
เลิกการเรียนรู้จะไม่เกิดความกลุ้มใจ ปฏิบัติตามลูกเดียวกับถูกตลอด มันแตกต่างกันอย่างไร?
ความดีกับความชั่ว มันแตกต่างกันอย่างไร?
ผู้คนเขากลัว ฉันไม่กลัวไม่ได้ มันเวิ้งว้างอย่างไม่มีสิ้นสุด
ผู้คนเขาสนุกสนานเหมือนมีงานเลี้ยงใหญ่ เหมือนขึ้นหอสูงซึ่งเต็มด้วยบรรยากาศฤดูใบไม้ผลิมีฉันคนเดียวไม่กระทำ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเด็กทารกที่ยังไม่รู้จักหัวเราะ ไม่มีจิตใจเหมือนไม่มีที่กลับอาศัย ผู้คนเขาอุดมสมบูรณ์จนเหลือ มีฉันคนเดียวที่ยังขาดแคลน เป็นจิตที่โง่ของฉัน มันขุ่นมัว ผู้คนเขาเฉลียวฉลาด มีฉันคนเดียวที่ยังหม่นหมอง ผู้คนเขาเคร่งครัดชัดเจน มีฉันคนเดียวยังคลุมเครือ มันเงียบสงบเหมือนน้ำทะเล มันปลิวพัดไปไม่มีที่หยุด ผู้คนเขามีความสามารถมีฉันคนที่ยังดื้อดันและต่ำต้อย มีฉันคนเดียวที่ไม่เหมือนคนอื่น เพราะเห็นความสำคัญของแม่
ความหมาย
การเรียนรู้ของผู้ที่นิยมหลงใหลวัตถุ ลำเอียงตนเองเห็นแก่ตัว ทำให้สังคม และครอบครัวเกิดความขัดแย้งและปัญหาเลวร้ายไม่สงบ ทำให้สังคมขาดความสมดุล และจิตที่ลำเอียงตนเอง ทำให้จิตรับภาระหนัก ทำให้จิตและร่างกายขาดความสมดุล ไม่ปกติ เลิกการเรียนรู้จะดีกว่าไม่ให้จิตไปเกาะติดกับความยุ่งยาก กลัดกลุ้มทางวัตถุให้จิตปลดปล่อยเป็นอิสระจะดีกว่าการปฏิบัติตามหรือขัดขืน ความดีหรือความชั่ว มันก็ไม่แตกต่างกันอย่างไร ? เพราะมันเป็นการกระทำด้วยความนิยมวัตถุและความเห็นแก่ตัวทั้งนั้น ผู้คนเขากินเลี้ยงสนุกสนานเหมือนขึ้นหอสูงชมวิวฤดูใบไม้ผลิ มีความสุขทางด้านวัตถุมาก แต่ฉันไม่มีความอยากความสนุกกับวัตถุเลยเหมือนทารก ฉันรู้สึกเคล้งคว้างเหมือนไม่มีที่จะกลับอาศัย ผู้คนเขาเฉลียวฉลาดมีมากมายทางด้านวัตถุ แต่ฉันยังขาดแคลน รู้สึกมัวหมอง คลุมเครือไม่รู้จักแสวงหาวัตถุ และผลประโยชน์มาให้ตนเอง รู้สึกเวิ้งว้างเหมือนอยู่ในทะเล ลอยไปมาไม่มีที่หยุด มีฉันคนเดียวดื้อดันและต่ำต้อยไม่ยอมนิยมวัตถุและชื่อเสียง เพราะฉันเห็นความสำคัญของเต๋า
บทสรุป
1. เหล่าจือมิได้คัดค้านการแสวงหาความรู้เพื่อผลประโยชน์แก่ประเทศชาติและสังคมแต่คัดค้านการแสวงหาความรู้ จากระบบความคิดนิยมและหลงใหลวัตถุด้วยความอยากและความเห็นแก่ตัว ก่อให้เกิดปัญหาและความขัดแย้งในสังคมครอบครัวอย่างรุนแรง และแก้ไม่ตกทำให้ประเทศชาติและประชาชนได้รับความเสียหาย อย่างหนัก
การปฏิบัติตามหรือคัดค้าน ความดีหรือความชั่ว หากมันกระทำด้วยความเห็นแก่ตัวเพื่อผละประโยชน์ของตนเอง หรือผู้มีอำนาจ มันก็ไม่แตกต่างกันเท่าไร
2. คนเราส่วนใหญ่มีระบบความคิดนิยมวัตถุ นอกจากจะก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง และแก้ไม่ตกในสังคมแล้ว ยังทำให้จิตต้องรับภาระหนัก ขาดความสมดุลไม่ปกติ เป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพอย่างยิ่ง
3. ดังนั้น คนเราอยากมีชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริง ต้องยกเลิกระบบความคิดนิยมวัตถุ หันมาปฏิบัติตามเต๋า แสวงหาความว่างเปล่า ยอมเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่นและสังคม จะทำให้จิตมีความสุข และมีประโยชน์ต่อสังคมครอบครัวและประเทศชาติ มีประโยชน์ต่อสุขภาพของตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น